กาญจนบุรี

ประวัติเมืองกาญจน์
เมื่อย้อนรอยความเก่าแก่ของพื้นที่แห่งนี้ในอดีต สามารถไล่เรียงไปได้ไกลถึงอารยธรรมโบราณสมัยก่อนประวัติศาตร์ ตั้งแต่มนุษย์ยังไม่รู้จักการใช้ตัวอักษรในการบันทึก และสื่อสาร จากหลักฐานที่พบโดยบังเอิญของเชลยศึกสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ดอกเตอร์ แวนฮิกเกอเรน นักมนุษยวิทยาจากฮอลันดา ที่ถูกเกณฑ์มาสร้างทางรถไฟสายมรณะ ได้พบเครื่องมือหินจำนวนมาก เมื่อสงครามสงบแล้วเขานำส่งไปตรวจที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สันนิษฐานได้ว่า เคยมีมนุษย์ในยุคหินเก่าอาศัยอยู่บริเวณนี้ คือประมาณ 500,000 - 10,000 ปีก่อน เผ่าพันธุ์เดียวกับที่ค้นพบที่ชวาและปักกิ่ง เป็นเผ่าพันธุ์ที่ยังไม่มีการตั้งหลักปักฐานสร้างบ้านเรือน ได้แต่อาศัยอยู่ตามริมน้ำ ถ้ำ และเพิงผา ล่าสัตว์เป็นอาหาร ยังไม่รู้จักการเพาะปลูก ทั้งยังพบหลักฐานของสมัยหินกลาง ที่เป็นกลุ่มที่มีการใช้เครื่องมือและภาชนะดินเผาแบบง่ายๆ สมัยหินใหม่ที่ชุมชนรู้จักการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ มีประเพณีพิธีต่างๆ มีการใช้ภาชนะดินเผา เครื่องประดับและเครื่องจักรสาน รวมถึงสมัยโลหะ ที่มีหลักฐานจากการค้นพบเครื่องมือสำริดมากมายในบริเวณนี้

เมื่อเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ กาญจนบุรีก็เป็นสถานที่สำคัญ ตั้งแต่เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญสมัยอยุธยา ที่คอยรับศึกจากพม่า จนถึงสมัยกรุงธนบุรี และรัตนโกสินทร์ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ทุกคนกล่าวถึงมากที่สุด คือประวัติการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควและทางรถไฟสายมรณะ ครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มีอังกฤษและฝรั่่งเศสเป็นฝ่ายพันธมิตร และญี่ปุ่นเป็นฝ่ายอักษะ ซึ่งขณะนั้นทั้งๆ ที่ประเทศไทยได้วางตัวเป็นกลางทางสงคราม แต่ก็ถูกบีบบังคับจากกองกำลังทหารญี่ปุ่น เพื่อเป็นพื้นที่ในการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อไปยังพม่าและอินเดีย

อีกไม่นาน กาญจนบุรีจะได้เป็นเมืองที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยถนนที่เชื่อมต่อพรมแดนไทยพม่า จากเมืองกาญจน์สู่ท่าเรือน้ำลึกทวายของสหภาพพม่า

มีนักท่องเที่ยวมากมาย ที่หลงใหลการท่องเที่ยวตามป่าเขาลำเนาไพร เพลิดเพลินกับการชมต้นไม้ไพรพฤกษานานาพรรณ ดื่มด่ำทัศนียภาพของสีเขียวแห่งหุบเขา ลำน้ำใหญ่น้อย และได้สัมผัสกับสายน้ำตกที่เย็นฉ่ำ กาญจนบุรี หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า "เมืองกาญจน์" จึงเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีแทบทุกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวประเภทลุยไหนลุยกัน ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง กับระยะทาง 129 กิโลเมตรจากกรุงเทพถึงตัวเมือง ทำให้เมืองกาญจน์ เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวที่ชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจ เพราะสามารถมาเที่ยวได้ทั้งแบบเช้าไปเย็นกลับ และแบบพักแรมค้างคืน

ด้วยเรื่องราวความเป็นมา ตำนาน คำเล่าขาน ไปจนถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ประกอบกับธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ของผืนป่าทางภาคตะวันตก ยิ่งทำให้เมืองกาญจน์ดูมีมนต์ขลัง ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว บอกกันปากต่อปากถึงเสน่ห์ของเมืองในตำนานแห่งภาคตะวันตก

ภูมิประเทศและภูมิอากาศ
กาญจนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 19,473 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ รองจากจังหวัดนครราชสีมา และเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนใหญ่ทางเหนือและตะวันตกเป็นผืนป่า มีเทือกเขาสลับซับซ้อนทางทิศตะวันตกทอดยาว เป็นแนวกั้นเขตชายแดนระหว่างไทยกับพม่า เป็นระยะทางกว่าสี่ร้อยกิโลเมตร ทางใต้เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำแม่กลอง ที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูก ซึ่งส่วนใหญ่ทำไร่อ้อยและปลูกข้าว ส่วนภูมิอากาศมีลักษณะร้อนชื้น มีอากาศร้อนอบอ้าวและร้อนจัดในช่วงเดือนเมษายน ฝนตกชุกในช่วงเดือนกันยายน และได้รับอิทธิพลความหนาวเย็น จากประเทศจีนแผ่ลงมาในช่วงกลางเดือนพฤศจิกาถึงกุมภาพันธ์

อาณาเขตติดต่อกับพีื้นที่การปกครองข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดตาก และจังหวัดอุทัยธานี
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดนครปฐม
- ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดราชบุรี
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า

การแบ่งเขตการปกครอง
จังหวัดกาญจนบุรีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 98 ตำบล 943 หมู่บ้าน 206 ชุมชน 31 เทศบาล 90 อบต.

การปกครองระดับอำเภอ 13 อำเภอ คือ

พื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นผืนป่าที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ทั้งพรรณไม้และสัตว์ป่า การล่องแพชมธรรมชาติตามลำน้ำแคว ล่องเรือชมวิวอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน หรือนั่งช้างชมธรรมชาติ ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด มีทั้งถ้ำมากมายที่มีอยู่ตามหุบเขา น้ำพุร้อน และน้ำตกที่สวยงามแปลกตาก็ถือเป็นจุดที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองกาณจน์อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังมีแหล่งที่เที่ยวอื่นๆ เช่นการพักผ่อนชมทัศนียภาพที่สวยงามของเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ การเที่ยวชมนมัสการวัดของเกจิอาจารย์ดังเช่น วัดหลวงพ่ออุตตมะ รวมถึงการได้เห็นวิถีชุมชนชาวมอญ จากคำขวัญจังหวัดที่ว่า "แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่ น้ำตก" จะเห็นได้ว่าเมืองกาญจน์ยังมีแหล่งที่เที่ยวที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจด้านประวัติศาสตร์และโบราณสถานด้วย เช่น ปราสาทเมืองสิงห์ และด่านเจดีย์สามองค์

ด้วยสถานที่เที่ยวมากมาย และระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถจัดทริปได้แบบเช้าไปเย็นกลับ และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการผจญภัย ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม อาจจะต้องใช้เวลาในการท่องเที่ยวแบบค้างคืน ซึ่งรับรองได้ว่าด้วยความสวยงามและเสน่ห์ทางธรรมชาติจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้อย่างไม่รู้ลืม